รีวิว ipad gen 10

รีวิว ipad gen 10 เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อคืนวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากจะมีการอัปเกรดสเปกให้แรงขึ้นแล้ว ยังมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ทั้งหมดอีกด้วย ทำให้ได้รับความสนใจค่อนข้างมาก สำหรับใครที่สนใจ iPad รุ่นที่ 10 นี้ เราได้สรุปข้อมูลสำคัญทั้งสเปค ราคา และรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ไว้ในบทความนี้

สีใหม่ ดีไซน์ใหม่ เหมือน iPad Air

รีวิว ipad gen 10 โฉมใหม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงการออกแบบครั้งแรกในรอบหลายปีสำหรับ iPad ราคาประหยัด และคราวนี้มาในสีสดใสที่ต่างจากเดิม ได้แก่ สีฟ้า สีเงิน สีชมพู และสีเหลือง ไม่มีสีดำหรือสีเทา ดีไซน์ตัวเครื่องได้รับการยกเครื่องใหม่ให้เหมือน iPad Air 5 ด้วยขอบแบน ขอบบางลง มุมโค้งมน ย้าย Touch ID ไปที่ปุ่มเปิดปิด และเปลี่ยนเป็นพอร์ต USB-C เหมือนกับ iPad รุ่นอื่นๆ วางจำหน่ายแล้ว นอกจากนี้ ตำแหน่งของกล้องหน้ายังถูกย้ายไปที่ขอบด้านขวาของหน้าจอเพื่อให้เหมาะกับการสนทนาทางวิดีโอมากขึ้น ขนาดตัวเครื่องใกล้เคียงกับรุ่นก่อน และมีหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 10.9 นิ้ว (จากเดิม 10.2 นิ้ว)

หน้าจอใหม่ Liquid Retina

iPad Gen 10 มีหน้าจอขนาด 10.9 นิ้ว ซึ่งถือว่าใหญ่ขึ้นมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ที่น่าสนใจคือนอกจากจะใหญ่ขึ้นแล้ว ยังเป็นจอภาพ Liquid Retina เช่นเดียวกับ iPad Air, iPad mini และ iPad Pro 11 นิ้ว สังเกตเห็นได้ง่ายเมื่อใช้ Apple Pencil และกระจกไม่ได้เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน จึงมีเงาบนหน้าจอขณะใช้งานง่ายกว่า iPad รุ่นอื่นๆ

USB-C ถ่ายโอนไฟล์ไวขึ้น

การเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจอีกอย่างใน iPad Gen 10 คือการเปลี่ยนจากพอร์ต Lightning เป็นพอร์ต USB-C ซึ่งช่วยให้ถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วขึ้น และน่าจะทำให้ชาร์จเร็วขึ้นด้วย ภายในกล่องจะมีสาย USB-C to USB-C พร้อมอแดปเตอร์ชาร์จ 20W เหมือน Gen 9 ส่วนความทนทานของแบตเตอรี่นั้น Apple ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจน แต่จากข้อมูลคร่าว ๆ ใน spec sheet คาดว่าจะไม่ทนทานเหมือนเดิม

ชิปเซ็ตใหม่ พร้อม 5G และ WiFi 6

iPad Gen 10 อัปเกรดเป็นชิปเซ็ต A14 Bionic แบบเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 12 series และ iPad Air Gen 4 ซึ่งนอกจากจะทำให้ iPad Gen 10 มีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ยังรองรับ 5G (สำหรับรุ่นเซลลูลาร์) และ WiFi 6 และ Bluetooth 5.2 ด้วย

กล้องที่ดีขึ้นทั้งหน้า-หลัง

อีกจุดที่ได้รับการอัพเกรดจากเดิมคือกล้อง กล้องหลังเพิ่มความละเอียดเป็น 12MP (f/1.8) และสามารถถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60fps ผสานกับความสามารถของชิปเซ็ต A14 และซอฟต์แวร์ใหม่ น่าจะช่วยให้ถ่ายภาพและวิดีโอได้ดีขึ้น สำหรับกล้องหน้านั้นจะถูกย้ายไปด้านข้างเพื่อความสะดวกในการสนทนาทางวิดีโอในแนวนอน แต่ยังคงเป็นกล้องอัลตร้าไวด์ 12MP (f/2.4) เท่าเดิม

รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 แต่…

iPad Gen 10 รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 ดังนั้นใครก็ตามที่มีปากกาอยู่แล้วก็สามารถใช้กับรุ่นนี้ได้ แต่การที่ iPad Gen 10 เปลี่ยนไปใช้พอร์ต USB-C ทำให้เราไม่สามารถเสียบ Apple Pencil เข้ากับอุปกรณ์เพื่อเชื่อมต่อหรือชาร์จได้ ต้องใช้อะแดปเตอร์ ซึ่ง Apple จำหน่ายแยกต่างหากในราคา 390 บาท ซึ่งถ้าผู้ใช้ที่มี Apple Pencil รุ่นที่ 1 อยู่แล้ว จะใช้กับ iPad รุ่นที่ 10 ก็ต้องซื้อตัวแปลงเพิ่มในราคา 390 บาท แต่ถ้าซื้อใหม่เลยจะมีชุดตัวแปลงแถมมาในกล่องล็อต ใหม่ในการเชื่อมต่อที่อาจดูแปลกตา หาก Apple เลือกให้มีแถบเชื่อมต่อดินสอ รุ่นที่ 2 อย่าง iPad Air หรือ iPad mini คงจะใช้งานได้ง่ายขึ้น

คีย์บอร์ดใหม่ มี Track Pad

iPad Gen 10 เปิดตัวพร้อมเคสคีย์บอร์ด Magic Keyboard Folio รุ่นใหม่ที่มี Track Pad ด้วย ทำให้การทำงานสะดวกขึ้นกว่าเดิม แต่ราคาแรง 9,990 บาท

ดีไซน์หน้าจอใหม่หมด ไร้ปุ่มโฮมแล้ว

หันกลับมามองหน้าจอ เราเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จาก iPad ระดับเริ่มต้นเพราะมันมีหน้าจอแบบเต็มโดยไม่มีปุ่มโฮมที่ด้านหน้าและขอบบน-ล่างที่หนา ใช่ นี่เป็นดีไซน์เดียวกับ iPad Air 10 จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 10.9″ ซึ่งเท่ากับ iPad Air และหน้าจอแสดงผลก็สีสวยสดดี แต่จะยังคงเป็นหน้าจอ IPS LCD ธรรมดา ไม่ใช่แบบ Full Lamination จึงเห็นชั้นกระจกที่หนาขึ้นเล็กน้อย

ลำโพงคู่ Stereo แล้วนะ

ดีไซน์ใหม่ของ iPad รุ่นที่ 10 เพิ่มลำโพงอีกหนึ่งตัวที่ด้านบน เมื่อรวมกับลำโพงหลักด้านล่างรุ่นนี้มีลำโพงสเตอริโอคู่เสียง 2 ทาง ไม่เหมือนรุ่นที่ 9 ที่มีลำโพงคู่แต่อยู่ด้านล่าง 2 ตัว เวลาใช้งานแนวนอนจะไม่ได้เสียง 2 ทาง . โดยรวมแล้วในด้านดีไซน์ของ iPad รุ่นที่ 10 ต้องบอกว่า iPad Air ล้ำมาก ทั้งดีไซน์แบบเต็มจอ ตัดปุ่มโฮมออก กรอบตัวเครื่องทรงเหลี่ยม กล้องหลังนูน ลำโพงคู่ พอร์ต USB-C ถ้าไม่เห็นสีเหลืองเด่นแบบนี้คงคิดว่าเป็น iPad ระดับเริ่มต้นแน่ๆ

ราคาและวันวางจำหน่าย

ราคา ipad gen 10 สามารถสั่งซื้อ iPad Gen 10 ได้แล้ววันนี้จากเว็บไซต์ Apple โดยเริ่มจำหน่ายในวันที่ 26 ตุลาคมสำหรับประเทศแรก ๆ แต่ยังไม่มีการประกาศวันจำหน่ายที่ชัดเจนในประเทศไทย โดยราคา แต่ละรุ่นมีดังนี้

  • รุ่น Wi-Fi 64GB ราคา 17,900 บาท
  • รุ่น Wi-Fi 256GB ราคา 23,900 บาท
  • รุ่น Cellular 64GB ราคา 23,900 บาท
  • รุ่น Cellular 256GB ราคา 29,900 บาท

อุปกรณ์เสริมอื่นๆ

  • Apple Pencil รุ่นที่ 1 ราคา 3,900 บาท
  • หัวแปลง USB-C to Apple Pencil ราคา 390 บาท
  • Magic Keyboard Folio สำหรับ iPad (รุ่นที่ 10) ราคา 9,990 บาท

บทความแนะนำ

» รีวิว iphone 14 pro

» รีวิว vivo y22